ศิลปิน Julien Spiewak ผู้มองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างเรือนร่างและเครื่องเรือน

March 4, 2025
ศิลปิน Julien Spiewak ผู้มองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างเรือนร่างและเครื่องเรือน

West Eden Gallery จัดแสดงนิทรรศการศิลปะล่าสุด อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกในการจัดแสดงนอกสถานที่กับนิทรรศการ ร่าง ร่วม สมัย (Rang Ruam Samai) นำเสนอผลงานของศิลปินภาพถ่ายชาวฝรั่งเศส Julien Spiewak ณ โซว เฮง ไถ่ ย่านตลาดน้อย ด้วยความหลงใหลในเรือนร่างของมนุษย์ เครื่องเรือนโบราณ และสถาปัตยกรรมในสถานที่แต่ละแห่ง ที่ถูกนำมาผสมผสานจนกลายเป็นผลงานอันร่วมสมัยนี้

 

Julien Spiewak ศิลปินเจ้าของผลงานผลงานในนิทรรศการ "ร่าง ร่วม สมัย" แสดงความหลงใหลในความงดงามของเรือนร่างมนุษย์ โดยเขาได้เลือกใช้ส่วนต่างๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นแขน ขา มือ หรือแม้กระทั่งลำตัว ผสมผสานเข้ากับเครื่องเรือนและสถาปัตยกรรมในสถานที่ต่างๆ ซึ่งเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวและความทรงจำที่ซ่อนอยู่ในแต่ละสถานที่ผ่านผลงานภาพถ่ายของตนเอง 

 
 
 

คุณช่วยแนะนำตัวเองได้ไหม ?

 

สวัสดีครับ ผมเป็นช่างภาพชาวฝรั่งเศสชื่อ Julien Spiewak ครับ ผมเข้าเรียนการถ่ายภาพที่มหาวิทยาลัยปารีส โดยเน้นไปที่การเรียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การถ่ายภาพและศิลปะร่วมสมัย ผมเป็นคนที่สนใจในเครื่องเรือนโบราณ ภาพวาดโบราณ และสถานที่เก่าแก่ ผมเลยอยากผสมผสานความชอบของตัวเองเข้าไปในการถ่ายภาพของผมด้วยครับ

 

 

สไตล์ผลงานของตนเองเป็นแบบไหน?

 

ภาพถ่ายของผมถือเป็นงานศิลปะร่วมสมัยที่ผสมผสานกับความโบราณและอดีต ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องเรือนเก่าๆ ที่มีความโค้งเว้าเหมือนกับร่างกายมนุษย์ สัตว์ และพืช คนที่มาชมผลงานของผมอาจรู้สึกได้ว่าการผสมเครื่องเรือนกับร่างกายมนุษย์มีความลงตัวและกลมกลืนกัน สิ่งนี้ก็มาจากความตั้งใจของผมเช่นกันครับ

 

 

คุณช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมว่ากระบวนการร่างภาพของคุณก่อนลงมือทำงานเป็นอย่างไร?

 

ปกติแล้ว ก่อนที่จะมีการถ่ายจริง ผมจะมีการสำรวจสถานที่ที่ผมต้องการถ่ายก่อน โดยผมจะไปสำรวจสถานที่ในวันธรรมดาเพื่อเก็บภาพแต่ละมุมไว้ หลังจากนั้นผมจะกลับเข้ามาทำงานในสตูดิโอเพื่อพิมพ์ภาพถ่ายออกมาเป็นขาวดำ และผมจะเริ่มคิดว่ามุมไหน เครื่องเรือนชิ้นไหนที่จะเหมาะสมกับร่างกายแต่ละส่วนของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นเท้า ขา หลัง หรือแขน และหลังจากนั้นผมจะกลับไปที่สถานที่อีกครั้งในช่วงเวลาที่ปิดทำการ พร้อมกับนางแบบและนายแบบ เพื่อถ่ายภาพต่อไปครับ

 

 

 

สังเกตุได้ว่าภาพถ่ายของคุณจะถ่ายจากมุมตรงเพียงเท่านั้น เพราะอะไร?

 

ผมเป็นคนที่ชอบถ่ายภาพเป็นแนวตั้งจากมุมด้านหน้า เพื่อเน้นเส้นโค้งและรูปแบบของเส้นสาย ผมไม่ต้องการให้ภาพดูเป็นงานศิลปะในแง่ของทัศนียภาพ แต่ต้องการให้มีลักษณะคล้ายการบันทึกสถานที่นั้นไว้อย่างชัดเจน แม้ว่าผมจะนำร่างกายเข้ามาเป็นองค์ประกอบ แต่ภาพควรถ่ายในแนวตรงจากด้านหน้า โดยมุ่งเน้นที่วัตถุหลัก และผมก็ชื่นชอบแนวคิดนี้ครับ

 

 

แนะนำนิทรรศการ “ร่าง ร่วม สมัย” และซีรีส์ภาพถ่าย “Corps de Style”

 

ซีรีส์ “Corps de Style” เป็นผลงานที่ผมเริ่มมาเมื่อ 20 ปีที่แล้ว โดยคำว่า “Corps” เป็นภาษาฝรั่งเศสที่มีความหมายว่า ร่างกาย และคำว่า “Style” เป็นคำที่เราใช้กล่าวถึงเครื่องเรือนในแถบยุโรป บางครั้งเมื่อผมได้ไปเยี่ยมชมสถานที่ที่มีเครื่องเรือนในสไตล์เหล่านั้น ผมรู้สึกว่าร่างกายของเราสามารถผสมผสานเข้ากับเครื่องเรือนได้เป็นอย่างดี จนเกิดมาเป็นแนวคิด “Corps de Style” ของผมครับ


สำหรับ “ร่าง ร่วม สมัย” นิทรรศการนี้เป็นการผสมผสานภาพถ่ายที่ผมได้ถ่ายในประเทศไทยและยุโรป เช่นในปารีส โมนาโก สวิตเซอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณได้เห็นนิทรรศการเก่า มันดูเหมือนเป็นชุดงานเดียว ผมคิดว่าคุณอาจไม่รู้ว่าผลงานเหล่านี้ถ่ายจากหลายสถานที่ที่หลากหลาย แต่ทั้งหมดนั้นกลับผสานกันได้อย่างลงตัว

 

 

 

ความเชื่อมโยงระหว่างไทยและยุโรปในนิทรรศการครั้งนี้ 

 

ด้วยความที่ผมต้องการสานต่อแนวคิด ‘Corps de Style’ ในประเทศไทย ผมจึงได้ถ่ายภาพในสามสถานที่สำคัญ ได้แก่ บ้านโซว เฮง ไถ่, สิริศาลา ไพรเวทไทยวิลล่า ซึ่งเป็นบ้านพักไทยแบบดั้งเดิม และวัดสุวรรณาราม ที่เป็นวัดไทยแท้ โดยผมต้องการสร้างผลงานในประเทศไทยให้สอดคล้องกับผลงานที่ผมเคยถ่ายในยุโรป อย่างผลงาน ที่ถ่ายขึ้น ณ อิตาลี ผมได้ทำให้เชื่อมโยงกับผลงานในวัดสุวรรณาราม ที่มีการหยิบดอกไม้จากกำแพงในสถานที่ที่มีบริบทแตกต่างกันออกไป ผมชอบในความเชื่อมโยงนี้มาก และคิดว่าทีมงานของเราได้เลือกผลงานมาจัดแสดงคู่กันได้อย่างลงตัว ทำให้นิทรรศการดูกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว

 

 

มีผลงานในนิทรรศการนี้ที่ชื่นชอบเป็นพิเศษไหม?

 

ผลงานที่ผมชื่นชอบเป็นพิเศษในนิทรรศการนี้มีชื่อว่า Temple Door Gold leaf Bangkok Pattern, King Rama I ครับ จะเป็นผลงานที่ผมได้ถ่ายที่วัดสุวรรณาราม เป็นภาพที่ถ่ายมือของมนุษย์ที่กำลังถือดอกไม้ลายกนก ด้วยความที่ผมชอบแนวคิดที่มนุษย์ทำให้งานสถาปัตยกรรมดูมีชีวิตขึ้นมา ผมจึงชอบภาพนี้ครับ มันเหมือนเป็นการผสมผสานระหว่างสิ่งมีชีวิตและสิ่งที่ไม่มีชีวิต ระหว่างภาพวาดและมนุษย์

 

 
Temple Door Gold leaf Bangkok Pattern, King Rama I, 18th Century, Dream, 2024
 
 

อีกหนึ่งภาพที่ผมชอบไม่แพ้กันคือภาพ 0th Century Paintings Depicting Scenes of Life in Shades of Blue and Green ที่ โซว เฮง ไถ่ เป็นผลงานที่แสดงให้เห็นถึงความโค้งเว้าของร่างกายมนุษย์และภาพวาด ในงานเปิดนิทรรศการ มีแขกหลายท่านชอบภาพนี้เช่นกัน แต่บางคนอาจไม่สังเกตว่ามีร่างกายมนุษย์ซ่อนอยู่ด้วย และเมื่อเรามองเห็นเรือนร่างที่ซ่อนอยู่ในภาพนี้แล้ว เราจะเห็นมันไปตลอด ผมชอบภาพนี้เพราะภาพนี้ได้มีการเล่นกับรายละเอียดของภาพถ่าย ที่แขกต้องมีการพิจารณารายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อมองว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในรูปนี้บ้าง  

 

 

 

20th Century Paintings Depicting Scenes of Life in Shades of Blue and Green,
Alex. So Heng Tai, 2024

 

 

ส่วนไหนที่คิดว่ายากและท้าทายที่สุดสำหรับนิทรรศการนี้?

 

ผมคิดว่าการจัดนิทรรศการโซว เฮง ไถ่ เป็นสิ่งที่ยากและท้าทายที่สุดในนิทรรศการนี้ครับ เนื่องจากโซว เฮง ไถ่ ไม่ใช่พิพิธภัณฑ์หรือแกลเลอรี แต่เป็นบ้านไม้ทรงจีนเก่าแก่ที่เคยมีผู้คนอาศัยอยู่จริงๆ ทำให้การออกแบบและจัดนิทรรศการเป็นไปอย่างท้าทาย ซึ่งทาง West Eden ก็ได้จัดแสดงออกมาได้อย่างดี ทั้งในการนำเสนอผลงาน การจัดแสดง และการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างแต่ละสถานที่ ระหว่างยุโรปและไทย เรียกว่าผลงานแต่ละชิ้นเข้ากันได้อย่างลงตัวมาก ผมคิดว่าเป็นความท้าทายที่ยากมาก และทำให้นิทรรศนี้แตกต่างจากงานที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์หรือแกลเลอรีทั่วไปด้วยครับ

 


โปรเจกต์ที่ตั้งใจจะทำในอนาคต

 

เร็วๆ นี้ผมจะมีโปรเจคต์ใหม่ที่ร่วมมือกับโรงแรม  Aermitage ในประเทศโมนาโกครับ ซึ่งเป็นโรงแรมที่แต่ก่อนเป็นคฤหาสต์เก่ามาก่อน ด้านในจะมีเครื่องเรือนโบราณ คอลเล็กชันศิลปิน และประติมากรรมมากมาย ซึ่งผมก็ดีใจมากที่ได้ทำงานกับสถานที่ที่คุณค่าทางประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งในโมนาโก และผมก็หวังว่าจะได้มีโอกาสทำงานในประเทศไทยอีกเช่นกันครับ 

 

 

เนื่องจากคุณมีสไตล์การถ่ายภาพที่เป็นเอกลักษณ์มาก ช่วยแนะนำให้ศิลปินหรือช่างภาพสมัยใหม่ที่ยังค้นหาตัวเองไม่เจอ

 

สำหรับผมแล้ว การค้นหาสไตล์การถ่ายภาพของตนเองถือเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก เพราะยิ่งเราเรียนรู้และศึกษาการถ่ายภาพมากเท่าไร เราจะพบสิ่งใหม่ๆ มากขึ้นเสมอ จนสุดท้ายมันอาจทำให้เราเกิดคำถามกับตัวเองว่าเราจะทำให้ผลงานของเราแตกต่างจากผลงานที่มีอยู่แล้วอย่างไร

 

อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่เราต้องหลงใหลและซึบซับสิ่งที่เรารักเข้าไปกับการถ่ายภาพของเรา อย่างผมที่ชื่นชอบในเครื่องเรือนโบราณและประวัติศาสตร์ ผมก็พยายามผสมทั้งสองอย่างนี้ให้เข้ากับสไตล์การถ่ายภาพของผม ผมจึงคิดว่า เราควรตามหาสิ่งที่ตัวเองรักก่อน แล้วทำให้การถ่ายภาพสะท้อนความเป็นเราออกมาครับ

 

เรื่อง: เปมิกา สุยะราช
ภาพ: West Eden

Add a comment