เรียนรู้การตั้งราคาของผลงานสำหรับผู้เริ่มต้นสะสมงานศิลปะ

November 19, 2024
เรียนรู้การตั้งราคาของผลงานสำหรับผู้เริ่มต้นสะสมงานศิลปะ

สำหรับใครหลายคนที่เริ่มต้นก้าวเข้าสู่โลกของศิลปะ การเลือกซื้อผลงานศิลปะชิ้นแรกอาจเป็นทั้งประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและท้าทาย บางครั้งอาจเป็นการใช้วันหยุดสุดสัปดาห์เพื่อเดินชมแกลเลอรี่ในย่านศิลปะต่างๆ หรือการค้นพบชื่อของศิลปินใหม่ที่สร้างความประทับใจจนต้องจดไว้ในลิสต์คนโปรด แต่เมื่อถึงเวลาที่เราพร้อมจะสะสมผลงานชิ้นแรก คำถามที่อาจเกิดขึ้นคือ “ราคาของงานศิลปะถูกกำหนดอย่างไร?” หรือ “ทำไมงานนี้ถึงมีมูลค่าสูง?”


เพื่อช่วยให้ทุกคนได้เข้าใจถึงหลักการของการตั้งราคาผลงานศิลปะ West Eden Gallery ขอแบ่งปันเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการประเมินค่าและมูลค่าของผลงานศิลปะ เพื่อให้เราเข้าใจถึงการสะสมผลงานศิลปะมากยิ่งขึ้น

 

 
© Artwork Archive
 

ก่อนอื่น การทำความเข้าใจเกี่ยวกับการกำหนดราคางานศิลปะเป็นสิ่งสำคัญ เพราะราคาของผลงานศิลปะไม่ได้ถูกกำหนดขึ้นแบบสุ่ม แต่เกิดจากปัจจัยหลากหลาย ทั้งปัจจัยที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน เช่น ขนาดของผลงาน ความซับซ้อนหรือแรงงานที่ใช้ในกระบวนการสร้างสรรค์ ไปจนถึงปัจจัยที่ลึกซึ้งขึ้น อย่างชื่อเสียงของศิลปิน และความต้องการของตลาดสะสมในช่วงเวลานั้น การพิจารณาองค์ประกอบเหล่านี้จะช่วยให้เราเข้าใจว่าราคาของงานศิลปะสะท้อนถึงทั้งคุณค่าทางกายภาพและมูลค่าทางแนวคิดของผลงานอย่างไร


อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการประเมินผลงานศิลปะในระยะยาว นั่นคือ “มูลค่า” ซึ่งสะท้อนถึงคุณค่าทางสุนทรียะและแนวคิดเชิงลึกที่แฝงอยู่ในผลงานศิลปะ ซึ่งมูลค่านี้จะแตกต่างจากราคาที่เห็นได้ในทันที เพราะการเข้าใจมูลค่าจำเป็นต้องอาศัยการเรียนรู้ที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับศิลปะและประวัติศาสตร์


สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าการประเมินงานศิลปะไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ตัวเลขที่ระบุเป็นราคา แต่ยังต้องพิจารณาความหมายและบริบทที่ผลงานถ่ายทอดออกมา ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความใส่ใจในการศึกษาผลงาน


หนึ่งวิธีที่จะทำให้เรามั่นใจได้ว่าราคาของงานศิลปะ นั้นสอดคล้องกับคุณค่าของตัวผลงาน นั่นคือการนำตัวเองไปอยู่ในโลกแห่งศิลปะ ทั้งการสร้างความสัมพันธ์กับแกลเลอรี่ และการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้พบเจอผลงานศิลปะใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากการที่เราได้เห็นผลงานศิลปะผ่านตาหลายๆ ครั้ง จะช่วยให้เราสามารถแยกแยะและตัดสินใจเกี่ยวกับตัวผลงานศิลปะได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้เราเข้าใจในโครงสร้างของราคางานศิลปะได้มากขึ้นอีกด้วย เช่น ความพิเศษของผลงานที่สร้างขึ้นเพียงแค่ชิ้นเดียว อย่างภาพวาด หรือประติมากรรม โดยศิลปินที่มักจะมีราคาสูงกว่าผลงานที่สามารถทำขึ้นมาหลายชิ้น หรือเป็นซีรีส์ (series works หรือ limited editions)

 

 
Scala 1, 2021
 

มากไปกว่านั้น วัสดุ และเทคนิค ที่ศิลปินเลือกใช้ในผลงานแต่ละชิ้นยังส่งผลต่อราคาของงานได้เช่นกัน เช่น ผลงานที่สร้างสรรค์บนกระดาษ มักมีราคาย่อมเยากว่างานที่สร้างบนผืนผ้าใบ ในลักษณะเดียวกัน ขนาดของผลงาน ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ งานที่มีขนาดใหญ่กว่า มักจะมีราคาสูงกว่างานขนาดเล็กกว่า


อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้กันคือช่วงเวลาในเส้นทางอาชีพของศิลปิน ศิลปินที่อยู่ในช่วงเริ่มต้น มักมีราคาผลงานที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า ขณะที่ศิลปินที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล หรือผู้ที่สร้างชื่อเสียงมานานมักจะมีราคาสูงขึ้น สำหรับนักสะสมที่กำลังมองหาความพิเศษในผลงาน ควรให้ความสำคัญกับผลงานที่แสดงออกถึงความสดใหม่ หรือการบุกเบิกแนวทางใหม่ ทั้งในแง่ของมุมมองที่นำเสนอ เทคนิคที่สร้างสรรค์ และการเลือกใช้วัสดุหรือสื่อที่แปลกใหม่ นอกจากนี้ การสังเกตถึงความตั้งใจและความประณีตในกระบวนการสร้างสรรค์ รวมถึงแนวคิดที่แฝงอยู่ในผลงานนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับงานศิลปะ


การเข้าใจราคางานศิลปะ ยังรวมถึงการพิจารณาถึงที่มาของผลงาน และแหล่งจัดจำหน่าย แกลเลอรี่ที่มั่นคง มักมีการกำหนดโครงสร้างราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างเป็นระบบ ในขณะที่การประมูล สามารถสะท้อนถึงรสนิยม และความต้องการของตลาดในช่วงเวลานั้นได้ชัดเจน


ท้ายที่สุด การสะสมศิลปะ ไม่ควรถูกมองว่าเป็นเพียงการลงทุนทางการเงิน แต่ควรมองว่าเป็นการเติมเต็มความสุข และความสุนทรีย์ในชีวิต การครอบครองงานศิลปะที่เราหลงใหลไม่เพียงแต่นำมาซึ่งความสุข แต่ยังเป็นการสนับสนุนศิลปิน และการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ ที่จะก้าวเข้าสู่โลกแห่งศิลปะในอนาคตอีกด้วย

 

 

Alice Heine (1857-1925), wife of Prince Albert I of Monaco, white marble bust by Fabio Stecchi (1855-1928), 1892, Carole. Prince’s Palace of Monaco, 2018

Add a comment